สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อุดมศึกษา) พร้อมด้วย กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดพิธีลงนามความร่วมมือวิจัยและพัฒนาข้าว โดยมี ดร. นายจิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดีกรมการข้าว และศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนอง ผู้อำนวยการ สวทช. ลงนามร่วม ดร. วรรณภ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีชีวภาพ และ นางสาวกุลสิริ กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาข้าว ร่วมเป็นสักขีพยานร่วมวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว การผลิต และการบริหารจัดการการผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์และของเสียจากการผลิตข้าวตลอดห่วงโซ่คุณค่าในรูปแบบต่างๆ สนับสนุนและส่งเสริมการผลิตข้าวไทยให้แข็งแกร่ง สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรทุกภาคส่วนของประเทศไทยด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อไป
ดร. นายจิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กรมการข้าวให้ความสำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาข้าวมาโดยตลอด โดยเฉพาะการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพพื้นที่ที่สูงขึ้น การพัฒนาพันธุ์ การอนุรักษ์และปกป้องพันธุ์ การผลิตเมล็ดพันธุ์ การตรวจสอบ และการรับรอง การแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าข้าว รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมและองค์ความรู้ท้องถิ่นเรื่องข้าวด้วยความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือด้านการวิจัย การพัฒนาพันธุ์ข้าว การผลิต การจัดการการผลิต และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและสารตกค้าง ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ชาวนาควรผลิตข้าวให้มีประสิทธิภาพสูง ได้มาตรฐาน และมีมูลค่าสูง และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และบรรลุความมั่นคงทางอาหารตามนโยบายขับเคลื่อนบีซีจี
ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนอง ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานที่มุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถด้านการวิจัย การพัฒนา และนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศ ยินดีร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนเพื่อขยายการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์ สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าด้วย “การวิจัยและนวัตกรรมที่ดี” “การตอบสนองความต้องการ” และ “มุ่งเน้นประเด็นสำคัญของประเทศ” ของ สวทช. ได้ร่วมมือกับกระทรวงข้าวในการวิจัยและพัฒนาข้าวมาอย่างต่อเนื่อง ในอดีต สวทช. สังกัดกรมการข้าวโดยผ่านศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ ทนความร้อน ทนแล้ง ทนน้ำท่วม ทนเกลือ และทนเพลี้ยจักจั่นสีน้ำตาล ทนต่อโรคใบไหม้ปลายใบและขอบใบแห้ง ให้คุณภาพและผลผลิตสูง พันธุ์ข้าวได้รับการรับรองจากสำนักงานการข้าว และได้ขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชหลายชนิดกับกระทรวงเกษตร พร้อมจำหน่ายให้ชาวนา/ต่อยอด รวมทั้งร่วมมือพัฒนาพันธุ์ข้าวยุคใหม่
และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือความร่วมมือส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการวิจัยลดต้นทุนการผลิตและการพัฒนาข้าว โดย สวทช. ได้ร่วมมือกับกรมการข้าวในด้านเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การพัฒนา ผ่านศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค ของเครื่องตรวจจับเมล็ดข้าวโดยใช้เทคโนโลยีโฟโตนิกส์ในการจำแนกรายละเอียดของข้าว การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อรองรับการวิเคราะห์การระบาดของโรคเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล การพัฒนาแอปพลิเคชันใบข้าว NK เพื่อประเมินการขาดสารอาหารในใบของต้นข้าว และพัฒนาเป็นไลท์บอทวินิจฉัยโรคข้าว เป็นต้น
“ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจากความร่วมมือระหว่างทั้งสองหน่วยงานที่ผ่านมา และโอกาสความร่วมมือในอนาคต ทั้ง สวทช. และกระทรวงข้าวสามารถแบ่งปันความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างสารานุกรมพันธุ์ข้าวไทยเพื่อใช้ พัฒนาต่อยอดระบบบริหารจัดการการผลิตข้าว ระบบติดตามสุขภาพข้าวและทำนายผลผลิตข้าว และระบบแนะนำพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่และฤดูกาล เพื่อรักษาความเสี่ยงในการปลูกข้าวให้น้อยที่สุด และร่วมกันพัฒนาพันธุ์ข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้เทคโนโลยี Marker Assisted Selection (MAS) อย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับข้าวไทยให้เติบโต เข้มแข็ง และช่วยให้ชาวนามีรายได้อย่างยั่งยืน และความมั่นคงทางอาหารร่วมกัน” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าว