หอการค้า 5 ภาค ชี้เศรษฐกิจทรุดหนัก จี้รัฐพักหนี้-ผ่อนเกณฑ์ซอฟต์โลน

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกจังหวัดของประเทศไทย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรวมเกือบหมื่นราย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม การค้า ความเป็นอยู่ของผู้ประกอบการ คนในทุกแพตช์

“ภาคปฏิบัติ” สำรวจผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค ซึ่งสะท้อนให้เห็นใน 5 ภูมิภาค โดยหอการค้า

หอพักกลางขอให้รัฐเข้าเกณฑ์สินเชื่อ

นายธวัชชัย เศรษจินดา ประธานคณะกรรมการกลางเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เผย “ธุรกิจประชาชาติ” ชี้เศรษฐกิจภาคกลางโดยรวมน่าจะได้รับผลกระทบหนักกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ

เพราะอยู่ในพื้นที่ 10 จังหวัดที่มีการควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่สุด มีการระบาดของ COVID-19 อย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ในขณะนี้ แม้ว่าจะมีมาตรการชดเชยช่วยเหลือผู้ประกอบการและคนงาน

โครงการครึ่งคน ยิ่งโครงการมากยิ่งมีประโยชน์ ซึ่งค่อนข้างยากต่อการใช้งานและเงื่อนไขคิดว่าทุกมาตรการไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้

“การระบาดของ Covid19 ค่อนข้างสูง เนื่องจากทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ จึงมีการจำกัดการเดินทาง ร้านเปิดเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้บริโภคที่หดตัว คนส่วนใหญ่เลิกทำกิจกรรมเพื่อลดการใช้จ่าย การจำกัดการเดินทาง กำลังซื้อหายไปค่อนข้างมาก บิต . “

รัฐบาลควรช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการเงิน สนับสนุนให้อยู่รอดในวิกฤตครั้งนี้ เมื่อธุรกิจปิดตัว ผลกระทบการจ้างงานจะสูงมาก ยังคงมีการสนับสนุนมาตรการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูค่อนข้างน้อย

อยากให้ ธปท. ผ่อนปรนเงื่อนไขการตั้งเกณฑ์ธนาคารพาณิชย์ เช่น ผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อไม่ได้รับอนุญาตให้มี NPL เป็นเรื่องยากมาก

ธุรกิจอีสาน ลมหายใจเหลือ 10%

นายสวัสดิ์ ธีระรัตนนุกุลชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ “แนวปฏิบัติทางธุรกิจ” กำลังดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

และสายงานธุรกิจยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ และผู้ประกอบการจำเป็นต้องหาวิธีดูแลตัวเอง บางธุรกิจล้มเหลว ช่วยเหลือ Softlone มาตรการผ่อนชำระไม่ตรงตามข้อกำหนด

หนี้สูญคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และโครงการภาครัฐเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก ตัวอย่างเช่น ครึ่งหนึ่งของโครงการไม่ยุ่งเหมือนตอนที่เริ่มโครงการ

ขณะนี้ไม่สามารถประมาณตัวเลขทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ คนส่วนใหญ่ไม่ได้มาเพื่อใช้จ่าย ทำให้กำลังซื้อลดลง และเงียบสนิท โดยเฉพาะในเมืองต่างจังหวัด ชานเมืองได้รับผลกระทบน้อย

รัฐบาลต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำต่อไป ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาเพียงระยะสั้นแต่ไม่ยั่งยืน จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนนี้มีรัฐเดียวกัน วางแผนเอาตัวรอดไปวันๆ

แทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ตอนแรกทุกคนคิดว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว แต่โดนปิดค่ายคนงานก่อสร้างปล่อยให้ประชาชนกลับบ้าน แพร่ระบาดโควิดไปยังพื้นที่ต่างๆ ตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทุกอย่างหยุดอีกครั้ง ธุรกิจจัดส่งไม่ได้ช่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดมีความเสี่ยง

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการ ด้วยธุรกิจประมาณ 10% ที่มีชีวิตอยู่ในเชิงเศรษฐกิจ สถานที่ท่องเที่ยวหรือเทศกาลที่เตรียมเปิดหลายแห่งถูกระงับชั่วคราว

และวัคซีนยังมาไม่ถึง ไม่มาก การเมืองเกี่ยวข้องกับการเมืองมากเกินไป ความเชื่อมั่นลดลงเพราะค่าเฉลี่ยชั่วคราวสำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดสามารถฉีดได้เพียงร้อยละ 11 เท่านั้น การเปิดประเทศ 120 วันของนายกรัฐมนตรีที่ประกาศโดยนายกรัฐมนตรีนั้นไม่น่าเป็นไปได้หากสามารถทำได้ในทุกจังหวัด

ดังนั้นหัวข้อที่สับสนที่สุดคือวัคซีนและการบ้าน ปล่อยจนจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปรับแต่ละแผนทุกวัน

อย่างไรก็ตาม มาตรการเดียวกันนี้ไม่สามารถนำไปใช้กับเขตควบคุมสูงสุด 10 จังหวัดได้ หลายๆ จังหวัดอย่างกรุงเทพฯ อยากจะล็อกดาวน์ แต่ก็ไม่เห็นด้วยในด้านการบริหารมากนัก เพราะตอนนี้ทุกภาคอีสานเงียบ

ในบางจังหวัด ทุกคนถูกคุมขังและล็อกไว้โดยไม่แจ้งให้ทราบ และการล็อกดาวน์ใดๆ ก็ไม่เหมือนกับการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปลายภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเข้าสู่ฤดูเกี่ยว ประชาชนจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ถ้าวัคซีนมาไม่ตรงเวลาและพลาดไปจากนี้ ก็ไม่มีโอกาสและคงเป็นปัญหาไปอีกนาน

หอการค้าภาคตะวันออกเรียกร้องให้รัฐหยุดอัตราดอกเบี้ย

นายปรัชญา สมะละปะ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวกับธุรกิจประชาชาติว่าขณะนี้ทุกจังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นจังหวัดทั้งหมด รวมทั้งชลบุรี ฉะเชิงเทรา

ระยอง จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นทุกจังหวัด ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มถดถอยอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา การแก้ปัญหาของรัฐบาลจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีปฏิบัติในการจัดการ

“ฉันคิดว่าทางออกในการช่วยเหลือผู้ประกอบการตอนนี้ต้องหยุดเวลา ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือน “กบฤดูหนาว” จะไม่มีความสนใจในการวิ่งเหมือนวันนี้ หากหยุดโหลดชั่วคราวที่นี่ ภาระของทุกคนจะลดลง

ผ่านการแบ่งแยกช่วยเหลือผู้ที่เป็นลูกหนี้ที่ดีก่อน หากในช่วงก่อนโควิด ลูกหนี้รายนี้ชำระหนี้เป็นประจำ แต่ในสถานการณ์นี้ ทุกคนจะจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยมักจะน้อยกว่า Softlone เข้ากันไม่ได้แล้ว หลายบริษัทพยายามเจรจากับธนาคารหลายรอบโดยไม่ได้พิจารณา ผู้คนเริ่มท้อแท้ “

โครงการอสังหาริมทรัพย์ การยกเว้นหนี้ไม่เป็นไปตามเศรษฐกิจ ทำได้เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีระบบ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีน้อย และประมาณ 90% ของ SMEs ในประเทศจัดเป็นหนี้ส่วนบุคคล ไม่ใช่หนี้นิติบุคคลที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการช่วยเหลือธนาคาร

“ผมเชื่อว่ารัฐบาลทุกวันนี้ใช้เงินสนับสนุนพวกเขา ข. คนละ 3,000-5,000-7,000 บาท แต่ถ้าสถานการณ์โควิดลุกลามมาถึงขั้นนี้ ฉันไม่คิดว่ามันสามารถช่วยได้เลย ต้องคิดเรื่องการใช้ชีวิตให้มากขึ้น รัฐบาลต้องเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการ”

หอเหนือแสดงว่ากำลังซื้อน้อยกว่า 5%

นายสมบัติ ชินสุขเสริม ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ หอการค้าไทย เปิดเผยว่า รายงานเศรษฐกิจภาคเหนือ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564

เศรษฐกิจหดตัวอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะกำลังซื้อของภาคการท่องเที่ยวการบริโภคในภาคเหนือยังต่ำกว่า 5% ขณะที่การลงทุนชะลอตัวลง เฉพาะการค้าชายแดน เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัว expand

“ตอนนี้ผู้คนต่างกังวลกันมาก โดยเฉพาะพันธุ์เดลต้า และจำนวนวัคซีนที่ได้รับไม่ถึงเป้าหมาย ภาคเหนือ อัตราการฉีดวัคซีนไม่เกิน 10% จึงอยากให้รัฐบาลจำหน่ายวัคซีนเพิ่ม

และสถานการณ์การล็อกดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงยังแพร่กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในพื้นที่ จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและไม่สามารถประมาณการได้ “

การดำเนินการของรัฐบาลในแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ตให้ความหวังแก่ภาคเหนือว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และภาคเหนือน่าจะคึกคักกว่านี้

อย่างไรก็ตาม หอการค้าภาคเหนือได้พัฒนากลยุทธ์บางอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องฟังความคิดเห็นจากหลายๆ จังหวัดอีกครั้ง ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน น่าจะมีความชัดเจนในปี 2565

เพราะปีนี้ยังคงต้องพึ่งการจัดการโควิด-19 และการจำหน่ายวัคซีนแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ อยากให้รัฐบาลช่วยเร่งเรื่องนี้ ยังไงก็ต้องรอดูสถานการณ์ที่หอการค้าไทยจะทำการประเมินอีกครั้ง

หอการค้าภาคใต้กล่าวว่าเศรษฐกิจวัคซีนจะดีขึ้น

นายวัฒนา ธนศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยว่า ธุรกิจประชาชาติเศรษฐกิจโดยรวมขณะนี้กำลังทะลุทะลวง แม้ว่าการเปิดเศรษฐกิจแซนด์บ็อกซ์ของภูเก็ตจะดีขึ้นเล็กน้อย

จังหวัดอื่นๆ ที่จะเปิดเมืองในเดือนส.ค. ยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามแผน เช่น กระบี่ พังงา ซึ่งได้รับวัคซีนครั้งแรกไปแล้ว 20% และต้องฉีดอีก 2-300,000 เข็ม ต้องพึ่งวัคซีน

กำลังซื้อส่วนใหญ่ในภาคใต้อยู่ในภาคเกษตรกรรม เช่น ยางพารา น้ำมันปาล์ม ราคาดีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคใต้ได้ ภาคใต้ตอนนี้มีสัดส่วนประมาณ 21% ของรายได้จากภาคการเกษตร

แต่ไม่สามารถรักษาเศรษฐกิจของภาคใต้ทั้งหมดได้ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ตกอยู่ที่ประชาชนในระดับพื้นฐาน อีกทั้งรายได้จากการท่องเที่ยวก็หายไป โดยปกติรายได้ของภาคใต้จะอยู่ที่ประมาณ 800,000 ล้านบาทต่อปี ตอนนี้คาดว่าภูเก็ตจะเปิดได้ 3 เดือน และน่าจะมีรายได้ประมาณหมื่นล้านบาท”