ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป รุกธุรกิจสินเชื่อ ส่ง “มันนี่ ฮับ เซอร์วิส” ปล่อยกู้ส่วนบุคคล

บริษัท ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) ส่งบริษัทย่อย “Money Hub Service” ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน “Money Hub” เข้าถึงง่าย รู้ผลเร็ว ดอกเบี้ยต่ำ เริ่ม 4 ต.ค.

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายวินัย ทิวสมบูรณ์กิจ จะเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) ประกาศว่า บริษัท มันนี่ฮับเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TFG ถือหุ้น 88.50% พร้อมเปิดธุรกิจสินเชื่อ การให้กู้ยืมรูปแบบใหม่สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลจะเริ่มในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน MoneyHub ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับการให้บริการสินเชื่อภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยแอปพลิเคชันคุณสามารถสมัครสินเชื่อได้อย่างง่ายดายทุกที่ทุกเวลา คุณจะพบผลลัพธ์อย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที หากคุณมีเงินเดือนเพียง 7,000 บาทต่อเดือนก็สามารถสมัครสินเชื่อได้ทันที โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

มาพร้อมกับบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่ออุปโภคบริโภคเพื่อการท่องเที่ยว และสำหรับการประกอบอาชีพจะมีวงเงินอนุมัติสูงสุด 50,000 บาท โดยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2.08% ต่อเดือน โดยสามารถเลือกผ่อนชำระได้ เช่น 3 เดือน 6 ​​เดือน และ 12 เดือน ซึ่งการอนุมัติต้องใช้เวลาพอสมควร และโอนเงินภายใน 1-3 วัน

รวมถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า เพียงผ่อนชำระตรงเวลา สะสมคะแนนสะสมที่คุณสามารถแลกรับของรางวัลระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างดี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-791-1300 หรือ Line Official: @moneyhub

“ทำให้ธุรกิจสินเชื่อนี้มีโอกาสมากขึ้นสำหรับพนักงาน ลูกค้า เกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่ต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ นายวินัย กล่าวว่า การบรรเทาการใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงการสร้างโอกาสและเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจขนาดเล็กอาจดำเนินต่อไปจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังกล่าวด้วยว่า การพัฒนาธุรกิจทั่วไปของ TFG ในช่วงครึ่งหลังของปีจะแสดงทิศทางที่ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ผลจากการคลายล็อกดาวน์ในประเทศจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ธุรกิจส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 3/21 เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี ราคาส่งออกไก่ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

ในขณะที่ร้าน Fresh Mart เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ สามารถรับรายได้เพิ่มขึ้น และบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาของร้านตลาดสดอาหารไทยในปีนี้ให้รวมสาขาเพิ่มอีกประมาณ 70 สาขา จากปัจจุบัน 40 สาขา ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้บริโภคในบริษัทสามารถเพิ่มช่องทางการขายไก่และสุกรให้เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง อีกทั้งยังจะเพิ่มยอดขายอีกด้วย และสนับสนุนพอร์ตรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ขยายสาขา 17 สาขาในครึ่งปีแรกซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะเติบโตต่อไป