เห็นชอบแผนบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉิน – สำนักข่าวไทย อสมท

อาคารราชการ 20 เม.ย. – ครม. อนุมัติแผนปฏิบัติการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณภัยรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหวังช่วยผู้ประสบภัยฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพและทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท

นางสาวตรีสุลีตรีสรณกุลรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านรายการพอดแคสต์ไทยคู่ฟ้ามีประกาศว่าคณะรัฐมนตรีได้ใช้แผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข พ.ศ. 2563-2565 เป็น กรอบแนวทางการดำเนินงานรองรับเหตุฉุกเฉินและภัยธรรมชาติด้วยแนวทางบูรณาการที่ครอบคลุมและเป็นหนึ่งเดียว กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าประเทศไทยต้องเผชิญกับโรคร้ายและภัยธรรมชาติที่รุนแรงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งแผ่นดินไหวสึนามิน้ำท่วมและการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส (COVID-19) เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งปัญหาสังคมและการเมืองของประเทศดังนั้นจึงได้ร่างแผนปฏิบัติการข้างต้นขึ้น ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพจากภัยพิบัติ

“ วิสัยทัศน์ของแผนคือให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพปลอดภัยและมีความมั่นใจในระบบสาธารณสุขอย่างทันท่วงทีในทุกระยะของภัยพิบัติในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประกอบด้วย 4 กลยุทธ์: 1. ส่งเสริมการลดความเสี่ยงให้กับประชาชน มาตรฐานด้านการแพทย์และสาธารณสุขรวมถึงการเสริมสร้างพลังชุมชนและเครือข่ายความร่วมมือในทุกภาคส่วนซึ่งรวมถึงการสร้างความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะฉุกเฉินสร้างระบบการจัดการความต่อเนื่องที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่และทรัพยากรในการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน “กล่าว รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นางสาวตรีสุลีกล่าวว่า 2. บูรณาการระบบและให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพในภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยรวมถึงการพัฒนาระบบการสื่อสารในกรณีฉุกเฉินและเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันกับการพัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรที่เชื่อถือได้เพื่อรับมือกับ เหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติ ระบบบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน 3. เพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และการสาธารณสุขหลังเกิดภัยพิบัติ ทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับปฏิบัติการเพื่อพัฒนามาตรการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และสาธารณสุขตามแนวทางการกู้คืนจากภัยพิบัติ

4. พัฒนาขีดความสามารถและกลไกในการบริหารจัดการทางการแพทย์และสาธารณสุขสำหรับภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศและภัยสาธารณะด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมถึงการพัฒนาทักษะเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางการแพทย์และสาธารณสุข สร้างทักษะและความเชี่ยวชาญของเครือข่ายการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข และส่งเสริมมาตรฐานสากลสำหรับความร่วมมือในการบริหารความเสี่ยง” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

นางสาวตรีชุลีกล่าวว่างบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์จะรวม 588.41 ล้านบาทและแหล่งเงินที่จะใช้ตลอดระยะเวลาดำเนินการปี 2563-2565 จะเตรียมงบประมาณสำหรับงบประมาณ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของแต่ละหน่วยงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว – สำนักข่าวไทย

ข่าวเพิ่มเติม